Diabetic neuropathy

   เบาหวาน (Diabetes) เป็นภาวะที่น้ำตาลในเลือดสูงกว่าค่าปกติเป็นเวลานาน แบ่งเป็นสองชนิด ได้แก่

เบาหวาน ชนิดที่ 1 (Diabetes type 1) เกิดจากภาวะที่ร่างกายขาดหรือไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ซึ่งทำหน้าที่ลดระดับน้ำตาลในเลือด

เบาหวาน ชนิดที่ 2 (Diabetes type 2) เกิดจาก cell ในร่างกายเกิดภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้ไม่สามารถตอบสนองในการดึงเอาน้ำตาลในเลือดไปใช้


   จากภาวะที่น้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ย่อมส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆในร่างกาย หนึ่งในอาการผิดปกติที่พบได้บ่อย จากผลกระทบนี้ คือ อาการเส้นประสาทเสื่อมจากโรคเบาหวาน (Diabetic neuropathy) ซึ่งพบได้มากกว่า 50% ของผู้ป่วยเบาหวานทั้งสองรูปแบบ เนื่องจาก cell ของเส้นประสาท (nerve cell, neuron) และ Schwann cell บริเวณเส้นประสาทส่วนปลาย ไม่มีกลไกการป้องกัน cell จากภาวะน้ำตาลในเลือดสูง เหมือน cell ส่วนมากในร่างกาย จึงทำให้ cell เหล่านี้เกิดความเสียหาย โดยเฉพาะเส้นประสาทบริเวณปลายมือและปลายเท้า เพราะมักสัมผัสหรือกระทบกับสิ่งต่างๆ ผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะ Diabetic neuropathy บางรายอาจไม่แสดงอาการ แต่ผู้ป่วยส่วนมากจะมีอาการปวด (Pain) หรือชาตามปลายมือปลายเท้า ซึ่งมักมีอาการเรื้อรัง รักษาได้ยาก ทำให้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ระบบต่างๆ ทั้ง ระบบย่อยอาหาร, ระบบทางเดินหายใจ, หัวใจ และสมรรถภาพทางเพศ

(รูปจาก https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/294 )



   ในปัจจุบันยังไม่มีการรักษาที่มีประสิทธิภาพพอ ในการรักษาภาวะ Diabetic neuropathy ให้กลับมาปกติได้ ดังนั้น ทั้งนักวิจัยและแพทย์ส่วนใหญ่ จึงมุ่งเน้นที่จะพัฒนาการตรวจวินิจฉัยภาวะนี้ ตั้งแต่ช่วงต้น เพื่อช่วยในการเฝ้าระวัง และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน การตรวจวินิจฉัยภาวะ Diabetic neuropathy ส่วนมากจะดำเนินการ เมื่อพบอาการผิดปกติในผู้ป่วย วิธีที่นิยมใช้ ในการตรวจวินิจฉัย เพื่อป้องกัน คือ การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด และคอยควบคุมให้อยู่ในระดับปกติ แต่ดำเนินการได้ยาก เพราะต้องคอยควบคุมพฤติกรรมการบริโภคและดำเนินชีวิตของผู้ป่วย รวมถึงไม่สามารถลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนได้


   เทคนิค QST (Quantitative Sensory Testing) เป็นเทคนิคที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อให้สามารถตรวจประเมินสภาพและการทำงานของเส้นประสาทส่วนปลายออกมาเป็นค่าเชิงปริมาณ ทั้งเส้นประสาทกลุ่ม Large fibers และ Small fibers ซึ่งเทคนิคนี้ถูกนำมาใช้ในการตรวจวินิจฉัยและเฝ้าระวังภาวะ Diabetic neuropathy อย่างกว้างขวาง เพราะสามารถตรวจประเมินเส้นประสาทได้โดยตรง โดยเฉพาะในกลุ่ม Small fibers ที่จะเริ่มแสดงอาการก่อน กลุ่ม Large fiber ซึ่งในหลายงานวิจัยพบว่า ผู้ป่วยหวานทั้งสองชนิด ที่เริ่มมีภาวะ Diabetic neuropathy จะรับรู้อุณหภูมิได้ช้ากว่าคนปกติ โดยเฉพาะการรับรู้ความสึกเย็น

   ผลิตภัณฑ์ ในกลุ่ม Small fibers ของ Medoc ทั้ง PATHWAY, TSA-II, Q-Sense และ Q-Sense CPM ถูกนำมาใช้ทั้งในด้านคลินิกและงานวิจัย เกี่ยวกับภาวะ Diabetic neuropathy ทั้งในการตรวจวินิจฉัยเพื่อเฝ้าระวัง ตลอดจนการตรวจติดตาม เพื่อประเมินสภาพผู้ป่วยหรือประเมินการรักษา ซึ่งมีหลาสถาบันและหลายงานวิจัยให้การยอมรับและรับรองประสิทธิภาพในการตรวจวินิจฉัย ภาวะ Diabetic neuropathy ของผลิตภัณฑ์ Medoc



อ้างอิงจาก

https://medoc-web.com/blog/new-technology-may-change-the-diagnosis-and-management-of-diabetic-neuropathy/


https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/294


Wong, Man-Chun, and Joanne W.y. Chung. "Feasibility of Contact Heat Evoked Potentials for Detection of Diabetic Neuropathy." Muscle & Nerve 44, no. 6 (2011): 902-06. doi:10.1002/mus.22192.


Farooqi, M. A., Lovblom, L. E., Lysy, Z., Halpern, E. M., Ngo, M., Ng, E., . . . Perkins, B. A. (2015). Validation of Cooling Detection Threshold as a Marker of Sensorimotor Polyneuropathy in Type 2 Diabetes. Canadian Journal of Diabetes, 39(6), 542. doi:10.1016/j.jcjd.2015.09.063


Lysy, Zoe, Leif E. Lovblom, Elise M. Halpern, Mylan Ngo, Eduardo Ng, Andrej Orszag, Ari Breiner, Vera Bril, and Bruce A. Perkins. "Measurement of Cooling Detection Thresholds for Identification of Diabetic Sensorimotor Polyneuropathy in Type 1 Diabetes." PLoS ONE 9, no. 9 (2014). doi:10.1371/journal.pone.0106995. Sheen, Yi-Jing, Tsai-Chung Li, Jiann-Liang Lin, Wen-Chen Tsai, Chuen-Der Kao, Cho-Tsan Bau, and Wayne H.-H. Sheu. "Association between Thermal Threshold Abnormalities and Peripheral Artery Disease in Patients with Type 2 Diabetes." Medicine 97, no. 51 (2018). doi:10.1097/md.0000000000013803.


เรียบเรียงโดย

ทัชพล เมืองทรัพย์

Product Specialist

Thanes Science Co.,Ltd